|
|
|||||||||||||||||||||||||
เทคโนโลยีสะอาด
(Clean Technology) หมายถึง เทคนิคการปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยเน้นที่
การลดของเสียและลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้พลังงาน วัตถุดิบ ซึ่งจะส่งผลให้การใช้ทรัพยากรและพลังงาน
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลภาวะ นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้ซ้ำ
และการนำกลับมาใช้ใหม่ จึงเป็นการลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด ช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ลดต้นทุนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดหรือกำจัดของเสียหรือขยะ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด |
||||||||||||||||||||||||||
เป้าหมายของเทคโนโลยีสะอาด เทคโนโลยีสะอาดเน้นแนวคิดในการลดมลพิษ การใช้ซ้ำ หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งมีเป้าหมาย ดังนี้ 1. ลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด 2. การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด 3. เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตให้มีของเสียน้อยที่สุด 4. เปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ โดยใช้วัตถุดิบที่สะอาด ไม่ใช้วัตถุดิบที่มีสารพิษ 5. ปรับปรุงคุณภาพของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือ รวมทั้งเทคโนโลยีในการผลิตใหม่ๆ 6. ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน มีกระบวนการบำรุงรักษา มีขั้นตอนการผลิตที่ชัดเจน มีการแยกวัตถุดิบอย่างชัดเจน 7. การนำกลับมาใช้ใหม่/การใช้ซ้ำ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียนเพื่อนำทรัพยากรกลับมาใช้อีก |
||||||||||||||||||||||||||
วิธีการเทคโนโลยีสะอาด วิธีการเทคโนโลยีสะอาด แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ วิธีลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด และวิธีนำกลับมาใช้ใหม่หรือการใช้ซ้ำ การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด แบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้ 1. การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต (Process Change) ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เป็นการเลือกใช้วัตถุดิบที่สะอาด มีคุณภาพ ไม่เป็นอันตราย และไม่มี สิ่งสกปรกปนเปื้อนมากับวัตถุดิบ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่กระบวนการผลิต นอกจากนี้ควรเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ปรับปรุงเทคโนโลยี เป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตหรือใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องจักร หรือการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เพื่อลดปริมาณของเสียจากการผลิตให้เหลือน้อยที่สุด หรือลดเวลาในการผลิต เคลื่อนย้ายวัตถุดิบ เช่น การออกแบบและจัดวางผังโรงงานใหม่เพื่อลดระยะเวลาในการเคลื่อนย้ายวัสดุให้น้อยลง เป็นต้น ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เป็นการปรับปรุงการผลิตโดยใช้เทคนิคต่างๆ ในการลดหรือรวมขั้นตอนการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพของกระบวนการผลิต และเพื่อลดต้นทุนการผลิต เช่น การควบคุม รายการวัตถุดิบ การวางแผนการผลิต เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||
2.
การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ (Product Reformulation) ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นควรให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด หรือให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ตลอดจนลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายที่มีผลในการผลิต การใช้งาน และการทำลายหลังจากใช้งาน เช่น การ ปรับเปลี่ยนสูตรของผลิตภัณฑ์ ยกเลิกการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||
การนำกลับมาใช้ใหม่
แบ่งออกได้เป็น 2 แนวทาง คือ 1. การใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียน จะหมายถึง การนำผลิตภัณฑ์เก่ากลับมาใช้ใหม่ และการใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) คือ กระบวนการแปรรูปของใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เมื่อนำกลับมาใช้ ใหม่อาจจะใช้ได้เหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบ พลาสติก หรือ กระดาษที่ง่ายต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น ส่วนการใช้ซ้ำ (Reuse) เป็นการนำชิ้นส่วน หรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการใช้งานแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ โดย เป็นส่วนประกอบหนึ่งของผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การนำชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เลิกผลิตแล้วมาใช้ในการผลิต รุ่นต่อไปได้ เป็นต้น ซึ่งการแปรรูปของใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่มีกระบวนการอยู่ 4 ขั้นตอน ได้แก่ (อ้างอิงจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม) 1. การเก็บรวบรวม 2. การแยกประเภทวัสดุแต่ละชนิดออกจากกัน 3. การผลิตหรือปรับปรุง 4. การนำมาใช้ประโยชน์ ในขั้นตอนการผลิตหรือปรับปรุงนั้น วัสดุที่ต่างชนิดกันจะมีกรรมวิธีในการผลิตแตกต่างกัน เช่น ขวดแก้ว ที่ต่างสี พลาสติกที่ต่างชนิด หรือกระดาษที่เนื้อกระดาษและสีที่แตกต่างกันต้องแยกประเภทออกจากกัน เมื่อผ่านขั้นตอนการผลิตแล้ว ของเสียที่ใช้แล้วเหล่านี้จะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์ใหม่ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้น ตอนในการนำมาใช้ประโยชน์ ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลจึงสามารถสังเกตได้จากเครื่องหมายที่ประทับไว้บนผลิตภัณฑ์ที่ ผลิตทุกครั้ง การนำกลับมาใช้ใหม่ จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับชีวิต เพิ่มคุณค่าให้กับสิ่งแวดล้อมและ ช่วยถนอมรักษาทรัพยากรธรรมชาติของโลกไว้ได้ดีที่สุดในหนทางหนึ่ง ทำให้โลกมีจำนวนขยะลดลง และช่วยลด ปริมาณการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดินในโรงงานอุตสาหกรรมให้น้อยลง ลดการถลุงแร่บริสุทธิ์ และลดปริมาณการตัดไม้ทำลายป่าลงด้วย การหมุนเวียนนำมาผลิตใหม่ยังเป็นการลดการใช้พลังงานจากใต้พิภพ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่อากาศและลดภาวะการเกิดฝนกรด สำหรับประเทศไทยนั้น จากการศึกษาของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในปี พ.ศ. 2553 พบว่า ศักยภาพของวัสดุเหลือใช้ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้จากมูลฝอยที่เก็บขนได้ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมีประมาณ 15 ล้านตันต่อปีของปริมาณมูลฝอยที่เก็บได้แต่มีเพียงร้อยละ 25 หรือประมาณ 3.75 ล้านตันต่อปีเท่านั้น ที่มีการนำกลับมาใช้ประโยชน์ |
||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่างของใช้แล้วที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
ได้แก่ |
||||||||||||||||||||||||||
2.
การใช้เทคโนโลยีหมุนเวียน เป็นการนำเอาของเสียไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อนำกลับมาใช้ ได้อีก เช่น การนำน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต ตลอดจนวัสดุเหลือใช้ หรือของเสียจากการผลิต กลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||
|